เช็กพฤติกรรม ลูกติดมือถือ เสี่ยง “สมาธิสั้น”
ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อของคนในสังคมยุคดิจิทัล สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมีบทบาทสำคัญกับผู้คนทุกเพศทุกวัย เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนโซเชียลไปอย่างมาก
คุณพ่อคุณแม่มักจะปล่อยลูกๆ ไว้กับหน้าจอเพียงลำพังวันละหลายชั่วโมง ซึ่งการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงของภาพต่างๆ บนหน้าจอ ทำให้เด็กคุ้นเคยและชินกับความรวดเร็วของเนื้อหา
ส่งผลให้เด็กรอคอยไม่ค่อยได้ จดจ่อกับสิ่งรอบตัวน้อยลง รวมไปถึงลดการใช้สมองในส่วนของความจำ สะสมจนเกิดอาการสมาธิสั้นในเด็ก
สัญญาณที่บ่งบอกว่า “เด็กติดจอ”
-
ตื่นสายและมีอาการอ่อนเพลียในตอนเช้า
-
หมดความสนใจในกิจกรรมรอบตัว สนใจแต่จะเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
-
ตั้งตารอเวลาที่จะได้เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และมักพูดถึงเวลาที่จะได้เล่นเสมอ
-
เลิกสนใจสิ่งที่กำลังทำ เมื่อมีข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
-
ใช้เวลาเล่นนานขึ้น และอารมณ์เสียง่ายเมื่อพ่อแม่แสดงความกังวลเรื่องการใช้งานของพวกเขา
-
หงุดหงิดหรือหดหู่เวลาที่ไม่ได้เล่น และอาการเหล่านี้มักหายไปเมื่อเด็กได้เล่น
-
พยายามปกปิดการเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจากพ่อแม่ เช่น แอบเล่นในห้องนอน
-
มีพฤติกรรมก้าวร้าวเวลาพ่อแม่สอดส่องพฤติกรรมการเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
-
ขาดสมาธิระหว่างทำการบ้านหรือชอบเปิดดูจอระหว่างทำการบ้านไปด้วย