สมัยนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นโดยเฉพาะพวกโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟท แท็บเล็ตต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกตัวช่วยให้พ่อแม่ยุคใหม่ใช้เป็นสื่อการสอนให้กับลูก ๆ ได้ แต่อะไรที่มากไปมันก็ไม่ดี หากไม่ระมัดระวัง ลูกอาจจะติดโทรศัพท์มือถือ ติดเกม จนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง เสี่ยงต่อพัฒนาการด้านการสื่อสารเสี่ยง “สมาธิสั้น” แถมยังไม่ดีต่อดวงตาและสมองด้วย
วันนี้ Alpha-B มีวิธีแก้เด็กติดเกม เสี่ยง “สมาธิสั้น” ว่าต้องดูแลอย่างไร ?
1.อย่าให้ลูกเล่นมือถือคนเดียว
เวลาให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถืออย่าคิดแต่จะให้ลูกเล่นเพื่อให้ลูกอยู่นิ่ง ๆ หรือหยุดร้องไห้เท่านั้น พ่อแม่ควรสอดส่องดูแล และนั่งอยู่กับลูกเวลาเล่นด้วย คอยดูว่าเขาเล่นอะไร มีความเหมาะสมมั้ย ? เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำ ป้องกันการเกิดพฤติกรรมเลียนแบบที่อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคตได้
2.หากิจกรรมอื่นทำร่วมกัน
ถ้าหากลูกเริ่มติดจอมากจนเกินไปแล้ว ให้ลองหากิจกรรมอื่นทำร่วมกันในครอบครัว อาจจะไปเที่ยวข้างนอกบ้าน ไปออกกำลังกายด้วยกัน หรือลองสังเกตจากเกมที่ลูกเล่น แล้วหากิจกรรมที่ใกล้เคียงกับเกมมาเล่นกับลูกแทน เพื่อให้ลูกละสายตาจากหน้าจอ ออกมาสนใจโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น
3.กำหนดเวลาเล่นไม่เกินวันละ 2 ชม.
ผู้ปกครองควรกำหนดเวลาเล่นโทรศัพท์เล่นเกมให้ชัดเจน เพื่อเป็นการฝึกระเบียบวินัยให้กับลูกน้อยไป
4.กฎเป็นกฎ อย่าใจอ่อน
พ่อแม่บางคนอาจจะใจดี ตามใจลูกเวลาลูกแอบเล่นเกินเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อหมดเวลาตามข้อตกลงแล้ว กฎก็ควรเป็นกฎไม่มีการขอต่อเวลา พ่อแม่ยุคดิจิทัลจะต้องใจแข็ง ยึดตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ตั้งแต่แรก ถ้าไม่ทำตามก็ต้องมีทำโทษหรือยึดเครื่องคืนบ้างให้เขาเข้าใจว่าพ่อแม่เอาจริง ลูกอาจจะมีหงุดหงิดบ้างแต่ถ้าเราหัดจนเป็นนิสัย ลูกก็จะมีระเบียบวินัยขึ้นเอง